เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 87. สวิตักกทุกะ 7. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีวิตกและไม่มีวิตกโดยอนันตร-
ปัจจัย ได้แก่ วิตกที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่มีวิตกและวิตกซึ่งเกิดหลัง ๆ
โดยอนันตรปัจจัย (3)
[124] สภาวธรรมที่มีวิตกและไม่มีวิตกเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีวิตกโดย
อนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีวิตกและวิตกที่เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่มี
วิตกซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่มีวิตกและไม่มีวิตกเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกโดยอนันตร-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีวิตกและวิตกซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่วิตกที่เกิดหลัง ๆ
โดยอนันตรปัจจัย จุติจิตที่มีวิตกและวิตกเป็นปัจจัยแก่อุปปัตติจิตที่ไม่มีวิตก ฯลฯ
อาวัชชนจิตและวิตกเป็นปัจจัยแก่วิญญาณ 5 ฯลฯ ขันธ์ที่มีวิตกและวิตกเป็น
ปัจจัยแก่วุฏฐานะที่ไม่มีวิตกโดยอนันตรปัจจัย บริกรรมทุติยฌานและวิตก ฯลฯ
(ข้อความที่เขียนไว้ในเบื้องต้น ก็พึงทราบโดยเหตุนี้) อนุโลมและวิตกเป็นปัจจัยแก่
ผลสมาบัติที่ไม่มีวิตกโดยอนันตรปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่มีวิตกและไม่มีวิตกเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีวิตกและไม่มีวิตกโดย
อนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่มีวิตกและวิตกซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่มี
วิตกและวิตกซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย (3)
... เป็นปัจจัยโดยสมนันตรปัจจัย มี 9 วาระ
... เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย มี 9 วาระ
... เป็นปัจจัยโดยอัญญมัญญปัจจัย มี 9 วาระ
... เป็นปัจจัยโดยนิสสยปัจจัย มี 9 วาระ

อุปนิสสยปัจจัย
[125] สภาวธรรมที่มีวิตกเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีวิตกโดยอุปนิสสยปัจจัย
มี 3 อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :485 }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ทุกปัฏฐาน] 87. สวิตักกทุกะ 7. ปัญหาวาร
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ขันธ์ที่มีวิตกเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่มีวิตกโดยอุปนิสสยปัจจัย
(พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล) ขันธ์ที่มีวิตกเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่มีวิตกและวิตกโดย
อุปนิสสยปัจจัย (พึงเพิ่มบทที่เป็นมูล) ขันธ์ที่มีวิตกเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่มีวิตกและ
วิตกโดยอุปนิสสยปัจจัย (3)
[126] สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกโดย
อุปนิสสยปัจจัย มี 3 อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และ
ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาที่ไม่มีวิตกแล้วทําฌานที่ไม่มีวิตกให้
เกิดขึ้น ทํามรรคให้เกิดขึ้น ทำอภิญญาให้เกิดขึ้น ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น อาศัยศีล
ที่ไม่มีวิตก ฯลฯ ปัญญา ฯลฯ สุขทางกาย ฯลฯ ทุกข์ทางกาย ฯลฯ อุตุ ฯลฯ
โภชนะ ฯลฯ เสนาสนะ และวิตกแล้ว ทําฌานที่ไม่มีวิตก ฯลฯ มรรค ฯลฯ อภิญญา
ฯลฯ สมาบัติให้เกิดขึ้น ศรัทธาที่ไม่มีวิตก ฯลฯ เสนาสนะและวิตกเป็นปัจจัยแก่
ศรัทธาที่ไม่มีวิตก ฯลฯ ปัญญา ... สุขทางกาย ... ทุกข์ทางกาย ... มรรคที่ไม่มีวิตก
และผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย (1)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีวิตกโดยอุปนิสสยปัจจัย
(มี 3 วาระ พึงเพิ่มอุปนิสสยปัจจัยเข้าในที่ทุกแห่ง) ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาที่
ไม่มีวิตกแล้ว ให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ ทําฌานที่มีวิตก ฯลฯ วิปัสสนา
ฯลฯ มรรค ฯลฯ อภิญญา ฯลฯ สมาบัติให้เกิดขึ้น มีมานะ ถือทิฏฐิ อาศัยศีลที่ไม่มี
วิตก ฯลฯ เสนาสนะ และวิตกแล้ว ให้ทาน ฯลฯ ทําสมาบัติให้เกิดขึ้น ฆ่าสัตว์
ฯลฯ ทําลายสงฆ์ ศรัทธาที่ไม่มีวิตก ฯลฯ เสนาสนะและวิตกเป็นปัจจัยแก่
ศรัทธาที่มีวิตก ฯลฯ ปัญญา ฯลฯ ราคะ ฯลฯ ความปรารถนา ... มรรคที่มีวิตก
และผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย (2)
สภาวธรรมที่ไม่มีวิตกเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่มีวิตกและไม่มีวิตกโดย
อุปนิสสยปัจจัย ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาที่ไม่มีวิตกแล้วให้ทาน ฯลฯ (พึงเพิ่ม
บทที่เขียนไว้ในทุติยวารเข้าทั้งหมด) ทําสมาบัติให้เกิดขึ้น มีมานะ ถือทิฏฐิ อาศัย
ศีล ฯลฯ ปัญญา ฯลฯ เสนาสนะและวิตกแล้ว ให้ทาน ฯลฯ ฆ่าสัตว์ ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 43 หน้า :486 }